สวัสดีครับ! ผมชื่อ ร้อบบี้ ผู้ร่วมก่อตั้ง ปาลิโอ ร้อบบี้

ผมภูมิใจในสิ่งที่ Paleo Robbie ได้กำลังเป็นอยู่ในขณะนี้ และอย่างซื่อสัตย์แล้ว ผมรู้สึกประหลาดใจจริงๆ ที่พบว่ายังมีผู้คนมากมายในกรุงเทพฯ ได้เข้าร่วมกับเราต่อต้านอาหารแปรรูปและกอดคอกันกินอาหารแท้ 

ในปี 2555 ผมได้เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตไปอย่างน่าทึ่ง ซึ่งมันทำให้ดวงตาของผมเปิดกว้าง ตอนนั้นเป็นช่วงวัยยี่สิบต้นๆ ของผมเอง ผมมีปัญหาด้านสุขภาพที่ร้ายแรงและได้เข้าพบแพทย์และนักโภชนาการอยู่หลายคนเลยทีเดียว

ขั้นแรก: มันคงไม่ได้ง่ายอย่างนั้น

ผมสงสัยอยู่ว่าการที่ผมได้ทำตามคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายมาเป็นระยะเวลาถึง 3 ปี แต่ทำไมๆ มันก็ไม่ได้ทำให้ปัญหาสุขภาพของผมหายไปเลย แต่ว่าอีริก พี่ชายของผม ผู้ซึ่งพันธุกรรมของเราใกล้ชิดกันมากแต่เขาแก่กว่าผมมากกลับเอาชนะผู้เชี่ยวชาญเหล่านั้นได้ ทั้งๆ ที่เขาเพียงแค่ต้องการงานให้บริษัทเฉยๆ

ตั้งแต่ปี 2552 เขาบอกให้ผมทำตามวิธีทานอาหารของ Paleo ซึ่งหลักการโดยทั่วไปก็แค่ทานอาหารทั้งหมดและหลีกเลี่ยงอาหารแปรรูปเท่านั้น

ผมต้องโยนคำแนะนำของพี่ชายออกไปจากหัวไกลๆ เลย เพราะว่าเขาไม่ใช่ผู้ที่ฝึกอบรมเรียนด้านการแพทย์หรือด้านโภชนาการมา และมันก็ไม่ได้ง่ายอย่างนั้น

ผมได้เริ่มอ่านหนังสือยอดนิยมที่เกี่ยวกับสุขภาพอยู่หลายเล่ม และลองทานอาหารทุกอย่างโดยเริ่มต้นจากการเป็นมังสวิรัติ ทานคาร์โบไฮเดรตต่ำ ไขมันต่ำ ทานแต่น้ำผลไม้ และมันก็ไม่มีอะไรได้ผลในระยะยาวเลย

พอในปี 2555 ผมก็รู้สึกเบื่อ ครั้งหนึ่งตอนที่รับประทานอาหารกับพี่ชาย เขาบอกผมว่าผมควรเลิกทานอาหารแฟชั่น และเลิกเชื่อฟังคำแนะนำเรื่องอาหารการกินจากแพทย์ส่วนใหญ่ได้แล้ว เพราะว่าแพทย์อาจจะไม่ได้มีความรู้เรื่องอาหารมากพอเท่ากับผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารโดยตรง

เพราะเหตุผลง่ายๆ แบบนี้ ผมจึงแค่ควรทานอาหารแท้ โดยเฉพาะพวกพืช และเนื้อสัตว์ป่า (ที่ไม่ใช่เนื้อสัตว์จากโรงงาน) ไม่ทานคาร์โบไฮเดรตที่ผ่านการขัดสี และควรให้ร่างกายออกมารับแสงแดดทุกๆ วัน นอนหลับ 8 ชั่วโมงต่อวัน และออกกำลังกายเล็กน้อยทุกๆ วันอีกด้วย

ในเมื่อผมได้ลองอย่างอื่นแล้วมันไม่เวิร์ก ฉะนั้นแล้วผมต้องสูญเสียอะไรอีกล่ะ?

ขั้นที่ 2: เปิดดวงตาให้กว้าง

ผมรู้สึกวุ่นวายไปกับการอ่านเรื่องราวด้านอาหารการกินเพื่อเป็นข้อมูลให้ตัวเอง (เพราะว่าผมเรียนด้านประวัติศาสตร์มาก่อน ผมจึงชอบที่จะทราบข้อเท็จจริงด้วยตัวผมเองโดยตรง) ผมเพียงแต่ค้นหาคำว่า "paleo diet" ใน google แล้วผมก็ต้องอ่านบทความมากมายจำนวนหลายร้อยเรื่อง และยังมีหนังสืออีกหลายสิบเล่มที่เขียนขึ้นโดยนักวิจัยอิสระและนักเขียนบทความด้านวิทยาศาสตร์อีกด้วย

ในเวลานั้นผมกำลังเรียนจบหลักสูตรประกาศนียบัตรด้านโภชนาการแห่งชาติของเนเธอร์แลนด์ และผมก็ยังได้เรียนรู้ว่าการศึกษาด้านโภชนาการนั้นจะต้องใช้ศาสตร์ทางด้านศิลปะมากพอๆ กับด้านวิทยาศาสตร์ และพบว่าแนวทางปฏิบัติด้านต่างๆ ของรัฐบาลนั้นส่วนใหญ่แล้วมาจากการวิจัยจากยุคทศวรรษ 60 ซึ่งไร้บทวิพาย์วิจารณ์ใดๆ ทั้งสิ้น นั้นหมายถึงว่าแนวทางต่างๆ เหล่านั้นที่รัฐบาลใช้ถือว่าเป็นสิ่งที่ยังไม่ได้มีสิ่งใดมาหักล้างหรือพิสูจน์ให้เห็นได้เลยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา (โดยเฉพาะในเรื่องของคอเลสเตอรอลและเนื้อแดงที่ยังเป็นตำนานอยู่)

แต่ในทุกๆ วันนี้หลักฐานทางวิทยาศาสตร์มีความมั่นคงและน่าเชื่อถือ ปัจจุบันทั้งรัฐบาลและแพทย์ทั่วๆ ไปได้ให้คำแนะนำด้านโภชนาการที่เหมาะสมและมีความน่าเชื่อถือ ผมจึงทิ้งงานที่ยิบรอลตาร์และย้ายไปที่ภูเก็ตกับเพื่อน 3 คน และเราได้ทดลองไลฟ์สไตล์แบบ Paleo อยู่ 3 เดือน

จนถึงทุกวันนี้มันก็ยังทำให้ผมประหลาดใจอยู่  ผมใช้เวลากว่า 2 เดือน เพื่อให้ทุกคนอินไปกับข้อความนี้ด้วย

หากคุณรู้ว่าหนังแต่ละเรื่องนั้นจบลงอย่างไร เค้าโครงเรื่องหลายๆ โครงเรื่องมาเขียนรวมกันในช่วงเวลาเดียวกัน ที่มีแรงบันดาลใจเดียวกัน และมันเกิดเข้ากันได้? ความรู้สึกนั้นก็คงต้องคูณ 10 ซะแล้ว

ผมก็รู้สึกซาบซึ้ง รู้สึกกระตือรือร้น และเบิกบานใจว่า ผมไม่ได้เป็นหอบหืดอีกต่อไป แล้วก็ไม่มีอาการปวดศีรษะไมเกรนแบบคลัสเตอร์อีกแล้ว และสิ่งที่ดีที่สุดก็คือ ผมรู้สึกดีขึ้นกว่าเดิม 100 เท่าเลยแหล่ะ นี่จึงเป็นครั้งแรกในชีวิตของผมที่ผมพบแล้วว่าความรู้สึกที่หมายถึงสุขภาพดีจริงๆ นั้นไม่ได้หมายความว่า "ไม่ป่วย" ... แต่ความรู้สึกว่ามีสุขภาพดี มันหมายถึงว่ารู้สึกดี!

ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาผู้คนนับหมื่นทั่วโลกต่างได้ผ่านประสบการณ์เช่นนี้ อันทำให้หูตาของพวกเขาได้เปิดกว้างมาแล้ว  และผมเองก็ตัดสินใจที่จะเข้าร่วมเป็นพวกเดียวกันกับชนเผ่าทั่วโลกเช่นเดียวกับพวกเขาเหล่านี้

ขั้นที่ 3: เร่งให้เกิดการสร้างสุขภาพที่ยั่งยืนโดยนำอาหารแท้เข้าสู่ตลาดอาหารการกิน 

ผมเริ่มร่วมงานปาร์ตี้มื้อเย็นที่กรุงเทพในปี 2556 ซึ่งผมได้ทำอาหารโดยใช้อาหารแท้ให้กับเพื่อนผมและครอบครัวของผมเอง ผมแค่อยากให้ทุกคนได้ทานอาหารเพื่อสุขภาพอีกสักครั้งหนึ่งเช่นเดียวกับที่บรรพบุรุษเก่าแก่ของพวกเราได้เคยทำอาหารแท้แบบนี้ (แต่บรรพบุรุษของเราอาจจะไม่ได้มีชีวิตอยู่นานกว่าพวกเรา เพราะว่าพวกเขายังไม่มีสิ่งต่างๆ เช่น ยาปฏิชีวนะ และการแพทย์สมัยใหม่ที่สรรสร้างปาฎิหารย์ต่างๆ)

ในเวลาไม่ช้าเราก็มีเพื่อนอีกหลายสิบคน และเพื่อนๆ ของพวกเขาก็ยังต้องการทานอาหารแท้ทุกๆ วัน ซึ่งนอกจากพวกเขาแล้วก็ยังมีผู้บริโภคอื่นๆ ที่พวกเขาไม่มีเวลาทำอาหาร หรืออาจต้องการความสะดวกสบายในการตรวจเช็คข้อมูลด้านโภชนาการของอาหาร หรือผู้ที่รักการช้อปปิ้ง และผู้ที่ชอบการทำอาหารอยู่แล้ว

จากหลายสิบคนก็กลายเป็นหลายร้อยคน ผมจึงขอให้พี่ชายของผมช่วยจัดตั้งบริษัทในประเทศไทยเพราะผมไม่มีประสบการณ์เลย จากนั้นผู้คนหลายร้อยคนก็กลายเป็นหลักพันและมันก็มีบริษัท “อาหารเพื่อสุขภาพ” หลายสิบแห่งได้ผุดขึ้นแล้วในช่วงไม่กี่ปีผ่านมานี้

แพลนอาหารของ Paleo ได้รับการออกแบบโดยใช้หลักการ 'paleo' ซึ่งหมายถึง:

* เนื้อสัตว์ทั้งหมดเป็นเนื้อสัตว์ที่เลี้ยงโดยปล่อยทุ่งให้กินหญ้าเป็นอาหารหลัก และปลาทั้งหมดเป็นปลาที่จับได้จากแหล่งธรรมชาติ สัตว์ที่แข็งแรงและมีสุขภาพดีเหล่านี้จะให้โภชนาการที่สูงกว่าสัตว์อื่นๆ ที่ได้มาจากการเลี้ยงดูด้วยวิธีทั่วๆ ไป หรือแบบเลี้ยงแบบโรงงาน อีกทั้งเนื้อสัตว์ของเราเหล่านี้ยังไร้สารเคมีอีกด้วย

* ผักทั้งหมดมาจากเกษตรกรรายย่อยในท้องถิ่น ซึ่งเกษตรกรเราไม่ใช้ยาฆ่าแมลง พวกเราจะชอบพืชผักที่มีสารอาหารหนาแน่น อย่างเช่น ผักคะน้า และพืชผักสรรพคุณเลิศ อย่างเช่น กระเทียม และอะโวคาโด

* อาหารทุกมื้อเป็นอาหารไร้กลูเตนและแลคโตส เราไม่ใช้ธัญพืชหรือแคลอรี่เปล่าๆ เราออกแบบมื้ออาหารของเราโดยเลือกใช้วัตถุดิบที่ให้สารอาหารอย่างหนาแน่นที่สุด

* เราไม่ใช้น้ำมันพืชในการปรุงอาหาร แต่เราใช้น้ำมันปรุงอาหารที่มีความเสถียร เช่น เนยกี น้ำมันมะพร้าว น้ำมันหมู และไข

พี่ชายของผมได้สร้างบริษัทให้เติบโตและได้ดูแลผลิตภัณฑ์ของ Paleo Robbie ซึ่งผมแน่ใจว่าวัตถุดิบของเราทั้งหมดผ่านการทดสอบแล้วอย่างดีที่สุด และเราเลือกนำมันมาจากแหล่งวัตถุดิบที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้เท่านั้น ผมค่อนข้างพิถีพิถันมากในการเลือกอาหารให้กับโอดินลูกชายของผมเอง และสิ่งนี้มันก็เป็นเหมือนกฎทองของผมในการตัดสินใจว่าผมควรจะเพิ่มสินค้าอะไรเข้าไปในร้านของชำ Paleo ของเราดี  

วันนี้ Paleo Robbie ไม่ได้เป็นเพียงแค่บริการจัดส่งอาหารเท่านั้น แต่เราเป็นส่วนหนึ่งของชนเผ่าทั่วโลกที่ต้องการทานอาหารแท้

ผมขอแนะนำผู้ที่กำลังค้นหาวิถีทางเพื่อสุขภาพที่ดีให้กับตัวเอง คือ ให้พวกเขาสำรวจสิ่งที่ทำให้มนุษย์มีสุขภาพที่ดีจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ ซึ่งข้อมูลต้องไม่ไม่ได้มาจากฟีดข่าวสังคมทั่วๆ ไป และในปัจจุบันนี้พบว่ามีเนื้อหาคุณภาพดีที่คุณก็สามารถค้นหาได้ตามแหล่งข้อมูลออนไลน์ จากผู้เขียน อาทิ Chris Kresser, Rhonda Patrick, Mark Sisson, Rob Wolff และ Gary Taubes

ขอบคุณที่อ่านเรื่องราวของผมและผมขอให้คุณมีสุขภาพที่ดีที่สุด

เพียงทานอาหารแท้

ร้อบบี้